![]() |
เซลล์สัตว์ |
เซลล์ (Cell) มาจากคำว่า Cella ในภาษาละติน ซึ่งมีความหมายว่าห้องเล็ก ๆ
เซลล์ (Cell) คือ หน่วยที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต และเซลล์ (Cell) สามารถเพิ่มจำนวน เจริญเติบโตและตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ เซลล์บางชนิดเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง เซลล์อสุจิ เป็นต้น
เซลล์ (Cell) มีอยู่หลายชนิดซึ่งมีรูปร่างและลักษณะที่แตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่อยู่ของเซลล์
เซลล์ (Cell) มีโครงสร้างที่สำคัญอยู่ ๓ ส่วน ที่มีเหมือนกันคือเยื่อหุ้มเซล์ (Cell membrance)ไซโตพลาซึม (Cytoplsm)และนิวเคลียส (Nucleus)โดยเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membrance) เป็นส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์ (Cell) และกั้นเซลล์ (Cell) จากสิ่งแวดล้อมภายนอก ภายในเซลล์ (Cell) มีโครงสร้างเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ออร์แกเนลล์ (Organelle) ล่องลอยอยู่ในส่วนของเหลวที่เรียกว่าไซโตซอล (Cytosol) ออร์แกเนลล์เหล่านี้ทำหน้าที่ต่าง ๆ กัน มีนิวเคลียร์ (Nucleus) เป็นศูนย์ควบคุมกระบวนการเมแทบอลิซึม (Metabolism) ต่าง ๆ และการถ่ายทดลักษณะทางพันธุกรรม
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างก็ประกอบด้วยเซลล์ (Cell) ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด ที่สามารถบ่งบอกถึงคุณสมบัติและแสดงความเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างชัดเจนสมบูรณ์ เซลล์ (Cell) ช่วยในการสร้างและซ่อมแซม ผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูก อวัยวะ ต่าง ๆ ของร่างกาย
เซลล์ (Cell) อยู่ในร่างกายของคนเรามากมายหลายชนิด ซึงเซลล์แต่ละชนิดจะมีหน้าที่แตกต่างกันไป เซ่น เซลล์ (Cell) ของกล้ามเนื้อหัวใจ จะทำหน้าที่กระตุ้นหัวใจให้เดินการทำงาน และเซลล์ (Cell) ของตับอ่อน จะทำหน้าที่ในการผลิตอินซูลิน (Insulin) ที่สามารถช่วยเปลี่ยนสารอาหารเป็นพลังงานให้กับร่างกาย
ในปี พ.ศ.2208 (ค.ศ. 1665) โรเบิร์ต ฮุค (Robert Hooke) ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ได้ทำการประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ชนิดเลนส์ประกอบมาใช้ในการศึกษาเนื้อเยื่อของไม้คอร์ก พบว่าเนื้อเยื่อของไม้คอร์ก ประกอบด้วยช่องว่างเล็ก ๆ จำนวนมาก แล้วเรียกช่องที่ว่านี้ว่า “เซลล์ (cell)” ซึ่งเป็นเซลล์(cell)ที่ตายแล้วแต่ยังสามารถคงรูปให้อยู่ได้เพราะมีผนังเซลล์(cell wall)ซึ่งมีความแข็ง หลังจากนั้นก็ทำการค้นคว้าศึกษาในเรื่องของ เซลล์(cell)ของพืช เซลล์(cell)ของสัตว์และเซลล์(cell)ของจุลินทรีย์ต่างๆ เรื่อยมา จนในปี พ.ศ.2382 (ค.ศ. 1839) นักวิทยาศาสตร์ชื่อ ทีโอดอร์ ชวานน์ (Theodor Schwann) และ แมตเทียส จาคอบ ชไลเดน (Matthias Jakob Schleiden) (ทั้งคู่เป็นชาวเยอรมัน) ได้ร่วมกันตั้งทฤษฎีเซลล์ (cell theory) ขึ้นมา
เซลล์ (Cell) คือ หน่วยที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต และเซลล์ (Cell) สามารถเพิ่มจำนวน เจริญเติบโตและตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ เซลล์บางชนิดเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง เซลล์อสุจิ เป็นต้น
เซลล์ (Cell) มีโครงสร้างที่สำคัญอยู่ ๓ ส่วน ที่มีเหมือนกันคือเยื่อหุ้มเซล์ (Cell membrance)ไซโตพลาซึม (Cytoplsm)และนิวเคลียส (Nucleus)โดยเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membrance) เป็นส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์ (Cell) และกั้นเซลล์ (Cell) จากสิ่งแวดล้อมภายนอก ภายในเซลล์ (Cell) มีโครงสร้างเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ออร์แกเนลล์ (Organelle) ล่องลอยอยู่ในส่วนของเหลวที่เรียกว่าไซโตซอล (Cytosol) ออร์แกเนลล์เหล่านี้ทำหน้าที่ต่าง ๆ กัน มีนิวเคลียร์ (Nucleus) เป็นศูนย์ควบคุมกระบวนการเมแทบอลิซึม (Metabolism) ต่าง ๆ และการถ่ายทดลักษณะทางพันธุกรรม
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างก็ประกอบด้วยเซลล์ (Cell) ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุด ที่สามารถบ่งบอกถึงคุณสมบัติและแสดงความเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างชัดเจนสมบูรณ์ เซลล์ (Cell) ช่วยในการสร้างและซ่อมแซม ผิวหนัง กล้ามเนื้อ กระดูก อวัยวะ ต่าง ๆ ของร่างกาย
เซลล์ (Cell) อยู่ในร่างกายของคนเรามากมายหลายชนิด ซึงเซลล์แต่ละชนิดจะมีหน้าที่แตกต่างกันไป เซ่น เซลล์ (Cell) ของกล้ามเนื้อหัวใจ จะทำหน้าที่กระตุ้นหัวใจให้เดินการทำงาน และเซลล์ (Cell) ของตับอ่อน จะทำหน้าที่ในการผลิตอินซูลิน (Insulin) ที่สามารถช่วยเปลี่ยนสารอาหารเป็นพลังงานให้กับร่างกาย
ในปี พ.ศ.2208 (ค.ศ. 1665) โรเบิร์ต ฮุค (Robert Hooke) ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ได้ทำการประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ชนิดเลนส์ประกอบมาใช้ในการศึกษาเนื้อเยื่อของไม้คอร์ก พบว่าเนื้อเยื่อของไม้คอร์ก ประกอบด้วยช่องว่างเล็ก ๆ จำนวนมาก แล้วเรียกช่องที่ว่านี้ว่า “เซลล์ (cell)” ซึ่งเป็นเซลล์(cell)ที่ตายแล้วแต่ยังสามารถคงรูปให้อยู่ได้เพราะมีผนังเซลล์(cell wall)ซึ่งมีความแข็ง หลังจากนั้นก็ทำการค้นคว้าศึกษาในเรื่องของ เซลล์(cell)ของพืช เซลล์(cell)ของสัตว์และเซลล์(cell)ของจุลินทรีย์ต่างๆ เรื่อยมา จนในปี พ.ศ.2382 (ค.ศ. 1839) นักวิทยาศาสตร์ชื่อ ทีโอดอร์ ชวานน์ (Theodor Schwann) และ แมตเทียส จาคอบ ชไลเดน (Matthias Jakob Schleiden) (ทั้งคู่เป็นชาวเยอรมัน) ได้ร่วมกันตั้งทฤษฎีเซลล์ (cell theory) ขึ้นมา
เนื้อหาดีมากๆค่ะ
ตอบลบมีประโยชน์มากครับ
ตอบลบมีประโยชน์มากค่ะ
ตอบลบดีเยี่ยม
ตอบลบSo Good.
ตอบลบดีมาก
ตอบลบ